“การโปะหนี้บ้าน” เป็นตัวเลือกของใครหลาย ๆ คน เวลามีเงินก้อนใหญ่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นโบนัสก้อนโต, ถูกล็อตเตอรี่ หรือได้รับมรดก ฯลฯ เพราะการโปะบ้านนั้นจะช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้มาก แถมยังได้ความสบายใจที่ปลอดภาระก้อนโตได้
แต่อีกนัยหนึ่ง เงินก้อนเดียวกันนี้ก็สามารถนำไปลงทุนได้หลายทาง ซึ่งอาจจะให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยที่ประหยัดไป อีกทั้งการปิดหนี้บ้านเราจะไม่สามารถนำดอกเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้ เช็คก่อน จึงอยากพาทุกท่านมาตรวจเช็คว่าสุขภาพการเงินของเรา ว่าเหมาะกับการโปะบ้านหรือไม่
ควรนำเงินไปโปะบ้านหรือลงทุนดีกว่ากัน?
แน่นอนว่าเมื่อมีเงินก้อนใหญ่เข้ามา หรือมีเงินเก็บมากพอ หลายคนก็คิดจะเอาไปโปะบ้าน เพื่อประหยัดดอกเบี้ย แต่ในทางกลับกันหากนำเงินดังกล่าวไปลงทุนเช่น ซื้อหุ้น, กองทุน, ทองคำ, หรือนำไปต่อยอดธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้ ฯลฯ ก็อาจจะให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการประหยัดดอกเบี้ยหลายเท่า
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถในการลงทุนของแต่ละคน อีกทั้งเราก็ต้องประเมินตนเองให้ดี ว่าระหว่างนำเงินไปลงทุนกับโปะบ้าน อันไหนให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน
หากโปะบ้านแล้ว มีเงินพอใช้จ่ายรายเดือนไหม?
เป็นความจริงที่ว่า “การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” แต่ปัจจุบันหลายคนอาจจะแย้งได้ว่า “การมีเงินสดใช้เป็นลาภอันประเสริฐยิ่งกว่า” การมีเงินสดพอใช้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารการเงิน
- เมื่อเราพิจารณาที่จะโปะหนี้บ้านเราต้องประเมินให้ดีว่า เรามีเงินสดใช้ในแต่ละเดือนเพียงพอหรือไม่
- อีกทั้งมีหนี้อย่างอื่นที่เราต้องจ่ายหรือเปล่า เช่น ผ่อนรถ หรือหนี้บัตรเครดิต ฯลฯ ซึ่งหากเรามีหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยบ้านก็ควรที่จะปิดหนี้นั้นก่อน
เงินสำรองฉุกเฉินมีเพียงพอไหม?
นอกจากค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว ก่อนจะโปะบ้านเราต้องประเมินอีกว่า หากโปะไปแล้วเรามีเงินสำหรับกรณีฉุกเฉินมากพอไหม เช่น เกิดอุบัติเหตุ, การเจ็บป่วย หรือซื้อของชิ้นใหญ่ ฯลฯ
ซึ่งถึงแม้จะมีประกัน หรือมีบัตรเครดิตสำหรับเรื่องพวกนี้ แต่เราจำเป็นต้องมีเงินสดสำรองสักก้อนไว้ตลอด เผื่อเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินทั่วไปมักแนะนำให้มีเงินเก็บประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน
ประเมินความมั่นคงของรายได้
พูดง่าย ๆ ก็คือ ประเมินความมั่นคงของรายได้ = งานของเรามั่นคงแค่ไหน สำหรับพนักงานบริษัท ความมั่นคงของงานนอกจากจะขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเราแล้ว ยังขึ้นอยู่กับสถานภาพของบริษัทอีกด้วย
- ฉะนั้น เราจึงต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี ว่าหากเราต้องลาออก หรือไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลานานเรามีเงินสดเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตไหม
Reference:
- คะนอง ศรีพิบูลพาณิชย์. (2563). นี่ใช่เวลามาโปะหนี้บ้านไหม. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://bit.ly/3lNGz16
- DDproperty Editorial Team. (2559). นี่เรื่องที่มักเข้าใจผิด เมื่อคิดจะโปะบ้าน. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://bit.ly/3lMvnSk
- Krungsri The COACH. (2564). โปะบ้าน หรือ เก็บเงินก้อนไว้ดีกว่า – ทางเลือกคนมีเงินออม. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://bit.ly/3KiFVCR